อันตรายจากโรคของต่อมหมวกไตที่ไม่ควรมองข้าม

          สวัสดีวันศุกร์ครับผู้ที่รักสัตว์ทุกท่าน วันนี้ผมจะมาพูดถึงโรคของต่อมหมวกไตในสัตว์เลี้ยงที่หลายคนอาจจะมองข้ามเพราะคิดว่าไกลตัวแต่จริง ๆ แล้วอาจส่งผมอันตรายถึงชีวิตเจ้าตัวน้อยหากไม่ได้รับการรักษาภายในระยะเวลานะครับ

อาการที่พบ


          ภาวะของต่อมหมวกไตทำงานมากกว่าปกติ (Hyperadrenocorticism) หรือที่เรียกว่า Cushing's disease เจ้าของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัขอาจจะสังเกตุอาการของน้องหมาได้ดังนี้ครับ

  • ขนร่วงกล้ามเนื้อลีบ 
  • กินอาหารเก่ง ท้องกาง 
  • เหนื่อยและอ่อนเพลียง่าย 
  • ทานน้ำเก่ง ปัสสาวะบ่อย 
  • ผิวหนังท้องบาง เห็นเส้นเลือดชัดเจน


พันธุ์ที่พบบ่อย


          ได้แก่ พันธุ์พุดเดิ้ล ลาบราดอร์ อัลเซเชียน ดัชชุนและบีเกิล โดยสุนัขเพศเมียมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคชนิดนี้มากกว่าเพศผู้ 

การรักษา


           การตรวจวินิจฉัยทำโดยการตรวจวัดระดับฮอร์โมน คอร์ติซัล (cortisol) ที่มีสูงมากกว่าปกติ ซึ่งจุดประสงค์ของการรักษาเพื่อลดอาการทางคลินิคที่เกิดจากฮอร์โมนผิดปกติไม่ใช่การรักษาให้หาย ซึ่งอาจจะต้องทานยาตลอดชีวิต และมีการวัดระดับฮอร์โมนเป็นระยะ ๆ ด้วยครับ โดยปัจจุบันยาที่ใช้รักษาและได้ผลดีมี 2 ชนิด ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสัตวแพทย์และเจ้าของสัตว์เลี้ยงเนื่องจากมีราคาค่อนข้างสูงเพราะยังไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในประเทศไทยครับ
   
           1. Lysodern (Mitotane) ยาตัวนี้จะไปทำลายต่อมหมวกไตชั้นนอกให้ฝ่อไป แต่ต้องควบคุมปริมาณยาไม่ให้มากเกินไปจนทำให้ต่อมหมวกไตฝ่อถาวรได้ครับ ต้องมีการตรวจเลือดหลังได้รับการรักษาเป็นระยะ ๆ ยาตัวนี้ค่อนข้างอันตราย มีผลข้างเคียงสูง จึงควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดครับ

          2. Trilostane (Vetoryl) ค่อนข้างปลอดภัยกว่า Lysodern การทำงานคือจะไปยับยั้งเอนไซม์ dehydrogenase 3 - beta - hydroxysteriod มีผลลดการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซัล โดยไม่ไปทำลายต่อมหมวกไตเหมือนตัวแรก ปัจจุบันยาตัวนี้จึงเป็นที่นิยมมากกว่าครับ



          ข้อมูลวันนี้ค่อนข้างวิชาการนิดนึงน่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้าของสัตว์ที่กำลังเจออาการแบบนี้อยู่นะครับ เจ้าของสัตว์ต้องไม่ลืมว่าต้องให้สัตว์ได้รับการตรวจเลือด ปัสสาวะ และรับคำวินิจฉัยที่ถูกต้องจากสัตวแพทย์ก่อนรับยาไปใช้ทุกครั้งนะครับ

โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ 4 เปิดบริการ 24 ชม. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02-953-8086 Line : @VET4 เว็บไซด์ : www.vet4hospital.com



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม