แค่สัตว์เลี้ยงไอ....ใครว่าไม่สำคัญ ?
“แค่ก … แค่ก” เราเคยเห็นน้องๆที่บ้านของเราไอหรือไม่
?
ไอ (coughing) คือหนึ่งในปัญหาสำคัญที่พบได้บ่อยในสุนัขและแมว
เกิดจากการกระตุ้นตัวรับความรู้สึกที่พบได้ตั้งแต่บริเวณกล่องเสียง (larynx)
จนถึงหลอดลม (trachea and large bronchi) ดังนั้น
เมื่อไอ แสดงว่าบริเวณเหล่านี้ต้องถูกกระตุ้นด้วยบางสิ่งบางอย่าง !?
ปกติ
การไอคือการตอบสนองของร่างกายเพื่อขับบางสิ่งบางอย่างออกไป เช่น
ขับเสมหะที่ดักจับฝุ่นละอองที่อยู่ในอากาศ หรือขับสิ่งแปลกปลอมบางอย่างที่มีสำลักเข้าสู่หลอดลม
เป็นต้น แต่นอกจากสาเหตุเหล่านั้น การไอยังเกิดจากโรคหรือความเจ็บป่วยได้ด้วย
ตัวอย่างโรคที่ทำให้เกิดการไอที่พบได้บ่อย ได้แก่
1.
โรคหลอดลมอักเสบ (tracheitis /
bronchitis) หรือโรคปอดบวมร่วมกับหลอดลมอักเสบ (bronchopneumonia) ซึ่งมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
2.
โรคหลอดลมตีบ (tracheal
collapse) ที่มักพบบ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ปอมเมอเรเนียน
3.
โรคพยาธิหนอนหัวใจ (heartworm
disease) ที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิหนอนหัวใจโดยตรง
4.
กลุ่มโรคเนื้องอกในช่องอกหรือที่แพร่กระจายมาที่ปอด
(intrathoracic
tumor / metastatic tumor)
เหล่านี้คือตัวอย่างของโรคที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการไอ
จะเห็นว่า สาเหตุของโรคมีความแตกต่างกัน และความจริงนั้น
ช่วงอายุหรือสายพันธุ์ที่มักพบโรค ก็มีความแตกต่างกันออกไปด้วย ดังนั้น “แค่ไอ
จึงอาจไม่ใช่ปัญหาที่เราสามารถมองข้ามไปเฉยๆได้”
เจ้าของอย่างเรา … ทำอะไรได้บ้าง ?
การไอเพียงเล็กน้อย เช่น นานๆครั้ง
อาจเป็นการตอบสนองทั่วไปที่ไม่มีนัยสำคัญอะไร แต่การไอที่ได้ยินบ่อยขึ้นในรอบวัน
หรือได้ยินเรื่อยๆ ต่อเนื่องหลายๆวัน “อาจบอกว่ามีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น !?”
น้องๆที่มีปัญหาแบบนี้ “ควรได้รับการตรวจสุขภาพโดยสัตวแพทย์ !!!”
แล้วถ้ายังไม่ไอล่ะ
!? โปรแกรมดูแลสุขภาพถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สามารถปกป้องน้องๆที่เรารักจากสาเหตุของการไอข้างต้นได้
“การทำวัคซีนที่มีคุณภาพตามโปรแกรมที่เหมาะสม” “การป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ
หรือปรสิตภายนอกอื่นๆ” รวมถึง “การตรวจสุขภาพประจำปี” เหล่านี้คือองค์ประกอบของโปรแกรมดูแลสุขภาพที่
“เรา” ที่เป็นเจ้าของมอบให้ “น้องๆ” ที่เรารักได้ … แล้วรู้มั้ยว่า
โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ 4 ก็มีโปรแกรมดูแลสุขภาพเพื่อตัวน้อยสี่ขาเหล่านี้ด้วยนะ
^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น