5 เทคนิคพาน้องหมาท้าฟ้าฝน (ตอนที่ 1)
ฝนตก ฟ้าร้อง และลมแรง
สุนัขที่บ้านก็เริ่มออกอาการหายใจแรง เดินวนไปมา ตัวสั่น และพยายามหาที่ซ่อนตัว
น้ำลายเริ่มไหล ส่งเสียงเห่าหรือคราง
บางตัวอาจจะตะกุยทำลายข้าวของในบ้านเนื่องจากควบคุมอาการกลัวไม่อยู่ นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับหลาย
ๆ บ้าน และเป็นปัญหาพฤติกรรมที่มีเจ้าของมาปรึกษามากที่สุด
เคยเจออาการรุนแรงที่สุดที่เจ้าของเล่าให้ฟังคือสุนัขตกใจสุดชีวิตวิ่งพล่านและหนีออกจากบ้านขณะที่ฝนตกจนเจ้าของต้องขับรถออกไปตาม
หากสุนัขของคุณมีอาการข้างต้น เทคนิคต่อไปนี้จะช่วยลดอาการกลัวเสียงฟ้าร้องให้สุนัขที่บ้านได้ครับ
เทคนิคที่ 1 สร้างห้องหลบภัย
เหมาะกับสุนัขที่มีอาการไม่มาก
กลัวแค่เสียงฟ้าร้อง ไม่ได้กลัวเสียงฝนตก หรือลมพัดแรง ๆ
ทุกครั้งที่ฝนเริ่มตกให้เจ้าของพาสุนัขเข้าไปอยู่ในห้องที่อยู่ด้านในของบ้านทันที
ปิดหน้าต่างให้สนิทเพื่อให้เสียงฟ้าร้องเล็ดรอดเข้ามาให้น้อยที่สุด
เปิดเสียงเพลงหรือโทรทัศน์เพื่อช่วยกลบเสียงฟ้าร้อง
เจ้าของควรมาอยู่กับสุนัขในห้องดังกล่าวด้วยเพื่อให้สุนัขรู้สึกปลอดภัยและสบายใจ หากเจ้าของไม่สามารถอยู่กับสุนัขได้จริง ๆ
อาจเอาเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเจ้าของทิ้งไว้ใกล้ ๆ ตัวสุนัขแทน
สำหรับสุนัขที่เคยฝึกให้รู้สึกดีกับการอยู่ในที่นอน
โดยการเอาขนมหรือของเล่นไปวางในช่วงที่สุนัขเข้าไปนอน
อาจย้ายที่นอนสุนัขมาไว้ในห้องนี้ชั่วคราวด้วยเพื่อให้สุนัขมีมุมที่จะเข้าไปนั่งไปนอนเมื่อรู้สึกไม่สบายใจ
เทคนิคที่ 2 สงบคือสิ่งดีเสมอ
การฝึกสุนัขให้เรียนรู้ที่จะสงบเป็นกุญแจสำคัญของการแก้ปัญหาความกลัวทุกรูปแบบในสุนัข
วิธีการฝึกให้สงบง่าย ๆ วิธีการหนึ่ง คือ การฝึกคำสั่งพื้นฐานคำสั่ง “คอย” โดยจะมีการเน้นในส่วนของอาการขณะคอยว่าสุนัขต้องอยู่ในท่าทางที่ดูสงบ
และจะค่อย ๆ ปรับระยะเวลาการรอคอยให้นานขึ้นในการฝึกแต่ละครั้ง
หากพร้อมแล้วให้เริ่มหาสถานที่ฝึก
โดยในช่วงแรกต้องเป็นบริเวณที่สงบ ไม่มีคนหรือสุนัขเดินผ่านไปมารบกวนสมาธิ
การฝึกแต่ละครั้งจะไม่เกิน 10 นาที
เนื่องจากสุนัขเหมือนเด็กจะไม่สามารถจดจ่ออยู่กับการฝึกได้นาน ๆ สุนัขที่ไม่มีสมาธิอาจต้องแบ่งการฝึกเป็น
รอบละ 5 นาที 2 ครั้ง ผู้ฝึกคนแรกควรเป็นคนที่สุนัขเชื่อฟังมากที่สุดในบ้าน
และขนมที่ใช้ในการฝึกควรเป็นขนมที่สุนัขชอบมาก ๆ
ซึ่งเราจะไม่ให้ในโอกาสอื่นนอกจากในการฝึกเท่านั้น
การฝึกให้ “คอย” อย่างสงบ
1. สั่งสุนัขให้
“นั่ง” หรือ “หมอบ” และให้รางวัลในทันทีที่ทำตาม
2. โน้มตัวเข้าหาสุนัขเล็กน้อย
ยื่นฝ่ามือไปทางด้านหน้าและสั่งว่า “คอย” ด้วย เสียงโทนต่ำและลากเสียง ขณะฝึกเจ้าของควรเคลื่อนไหวช้า
และหายใจให้ดูผ่อนคลายเพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบ
เมื่อสุนัขอยู่ในอาการคอยอย่างสงบทั้งใบหน้าและท่าทางให้เจ้าของให้รางวัลพร้อมคำชมในทันที
แต่หากสุนัขดูไม่สงบให้พักการฝึก 30 วินาที ให้สุนัขเปลี่ยนอริยาบสแล้วจึ่งเริ่มฝึกใหม่
ค่อย ๆ ฝึกซ้ำและขยายระยะเวลาในการคอยจาก 2 วินาที เป็น 5 วินาที
3. ฝึกตามขั้นตอนที่
2 แต่คราวนี้ขณะออกคำสั่งให้ “คอย” ให้เจ้าของก้าวถอยออกมาหนึ่งก้าวและก้าวกลับมาที่เดิมในทันที
ให้รางวัลและคำชมหากสุนัขยังคอยอย่างสงบ
4. เพิ่มระยะการถอยเป็นสองก้าว
และคราวนี้ให้สุนัขคอยประมาณ 5 วินาที
ให้รางวัลและคำชมในทันทีหากสุนัขยังคอยอย่างสงบเช่นเดิม
5. การฝึกในครั้งต่อ
ๆ ไปเจ้าของอาจลองเปลี่ยนทิศทางในการก้าว เช่น ก้าวไปทางด้านขวาแทน
หรือเปลี่ยนท่าทาง เช่น ขณะที่ก้าวถอยหลังออกมาอาจหมุนตัวหนึ่งรอบ
ให้รางวัลและคำชมในทันทีหากสุนัขยังคอยอย่างสงบ
การฝึกในขั้นตอนนี้จะช่วยสร้างเงื่อนไขให้สุนัขว่าการคอยอย่างสงบเป็นเรื่องที่ดี
แม้เจ้าของจะไม่ได้อยู่ตรงหน้าหรือทำอะไรอยู่ก็ตาม
6. หลังเสร็จการฝึกสอนควรพูดว่า
“พัก”
เพื่อเป็นสัญญาณให้สุนัขรู้ว่าสามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ
7. การฝึกในวันถัด
ๆ มาเจ้าของอาจออกคำสั่งให้สุนัข “คอย” ในขณะที่เจ้าของเดินวนรอบ ๆ ตัวสุนัข หรืออาจปรบมือเบา ๆ
เพื่อรบกวนสุนัขเล็กน้อยขณะคอย ให้รางวัลและคำชมถ้าสุนัขยังคอยอย่างสงบ
8. ค่อย
ๆ เพิ่มระยะเวลาในการคอยจนถึง 15 วินาที แล้วค่อยเพิ่มสิ่งรบกวนให้มากขึ้น เช่น
เจ้าของอาจกระโดด วิ่งอยู่กับที่ คุยกับคนอื่น เคาะโต๊ะหรือกำแพง
หรือหันหลังให้สุนัข ฯลฯ หลังฝึกครบ 1 สัปดาห์
ให้เปลี่ยนสถานที่ในการฝึกเป็นสนามหน้าบ้าน
สุนัขที่เชื่อฟังคำสั่งได้ดีอาจเปลี่ยนให้สมาชิกคนอื่นในบ้านมาฝึกดูด้วยครับ
อย่าลืมนะครับเป้าหมายในการฝึกคือต้องการให้สุนัขเรียนรู้ว่าการสงบคือสิ่งที่ดีเสมอ
ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไร หรือกับใครก็ตาม
โปรดติดตามตอนต่อไป......
ด้วยความปราถนาดีจาก
โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ 4
โทร 02-953-8085-6 หรือ Line: @vet4
FB/IG/Twitter: @vet4hospital
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น